TCP/IP Tranmission Control Protocol /Internet Protocol

52 Slides860.00 KB

TCP/IP Tranmission Control Protocol /Internet Protocol

ความรูเ้ บื้องต้นเกี่ยวกับ TCP/IP TCP/IP ย่อมาจาก Tranmission Control Protocol / Internet Protocol ี ารพัฒนา โปรโตคอล TCP/IP เป็นชุดของโปรโตคอลที่มก มาตัง ั ถุประสงค์ให้สามารถสื่อสารจาก ้ แต่ปี 1960 โดยมีวต ต้นทางข้ามเน็ตเวิรค ์ ไปยังปลายทางได้ และสามารถหาเส้นทางที่จะ ส่งข้อมูลไปได้เองโดยอัติโนมัติ ถึงแม้วา่ ในระหว่างทางอาจผ่าน ี ัญหา โปรโตคอลก็ยง เน็ตเวิรค ์ ที่มป ั คงหาเส้นทางส่งผ่านข้อมูลไป ให้ถึงปลายทางจนได้ ในระยะเริม ่ ต้นโปรโตคอลนี้ใช้กันในวงการ แคบๆ เฉพาะราชการและสถานศึกษาของอเมริกา จนในช่วงปี 90 จึงมีการนำมาใช้ในทางธุรกิจ และเป็นจุ ดเริม ่ ต้นของอินเตอร์เน็ต

การแบ่งชัน ้ (Layering) TCP/IP เป็นชุดของโปรโตคอลที่ประกอบไปด้วย โปรโตคอลย่อยหลายตัว แต่ละตัวจะทำหน้าที่ในแต่ละชัน ่ ้ หรือเลเยอร์ (layer) ซึง รับผิดชอบและแปลความหมายของข้อมูลในแต่ละระดับ ของการสื่อสาร ในภาพรวม TCP/IP แบ่งออกเป็น 4 เลเยอร์ ดังนี้ Applicati on Transpor t Network

หน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละเลเยอร์ ี้ ะเป็นดีไวซ์ไดรเวอร์ที่ 1. Link Layer ในเลเยอร์นจ ทำงานอยูบ ่ นระบบปฏิบต ั ิการแต่ละระบบทำหน้าที่รบ ั ผิดชอบในการ รับส่งข้อมูลตั้งแต่ระดับกายภาพ สัญญาณไฟฟ้า จนถึงการแปล ความจากระดับสัญญาณไฟฟ้าจนเป็นข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ โปรโตคอลระดับนี้ เช่น Ethernet และ SLIP (Serial Line Internet Protocol) 2. Network Layer รับผิดชอบในการรับ ส่ง ข้อมูล เน็ตเวิรค ์ ส่งต่อข้อมูลไปจนถีงจุ ดหมายปลายทาง โปรโตคอลระดับ นี้ ได้แก่ IP ICMP IGMP 3. Transport Layer รับผิดชอบในการรับส่งข้อมูล ระหว่างเครื่องหนึ่ง(Host)ไปยังอีกโฮสท์หนึ่ง และจะส่งข้อมูลขึน ้ ไปให้Application Layer นำไปใช้งานต่อ มีโปรโตคอลที่จด ั อยู่ ในเลเยอร์นี้คือ TCP และ UDP ซึง ่ มีลักษณะในการรับส่งข้อมูลที่ แตกต่างกันออกไป

หน้าที่ความรับผิดชอบแต่ละเลเยอร์ (ต่อ) SMTP (Simple Mail Transfer Protocol) ใช้รบ ั ส่ง จดหมายอิเลคโทรนิคส์ ระหว่างโฮสต์ Telnet ใช้สำหรับการควบคุมเครื่องระยะไกล HTTP (Hypertext Transfer Protocol) เป็น โปรโตคอลที่ใช้รบ ั ส่งข้อมูล เว็ฟเพจระหว่างบราวเซอร์กับเว็ฟ เซิรฟ ์ เวอร์ POP (Post Office Protocol) ใช้สำหรับดาวน์โหลด อีเมล์จากเมล์ เซิรฟ ์ เวอร์มาไว้ที่เครื่องเมล์ ไคลเอนด์ (PC) ของผู้ใช้

IP : Internet Protocol IP เป็นโปรโตคอลที่ทำหน้าที่รบ ั ภาระในการนำ ข้อมูลไปส่งยังจุดหมายปลายทางไม่วา่ ที่ใดๆใน อินเตอร์เน็ต โปรโตคอลต่างๆใน TCP/IP Suit ทัง ้ TCP ,UDP, ICMP ต่างก็อาศัยระบบนี้ทัง ้ สิน ้ เนื่องจากตัวโปรโตคอล IP นี้มก ี ลไกที่ค่อนข้างฉลาดใน การหาเส้นทาง ขนส่งข้อมูล รูจ้ ก ั ที่จะซอกแซกหาช่อง ทางไปยังจุดหมายทุกทางที่เป็นไปได้ โปรโตคอลอื่นที่ อยูเ่ ลเยอร์สง ู ขึ้นไปเลยไม่ต้องรับภาระปวดหัวในการหา วิธส ี ง ่ ข้อมูลไปยังจุดหมายปลายทางอีก ขอแค่เพียง เตรียมข้อมูลให้เสร็จสรรพแล้วส่งให้ IP ก็นอนใจได้วา่ IP จะพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะหาทางไปให้

่ วชาญในการขนส่ง ถึงแม้วา่ IP จะเป็นโปรโตคอลที่เชีย ี ุ ดด้อยคือ IP เป็นโปรโตคอลที่ ข้อมูลไปได้ไกลๆ แต่ก็มจ Unreliable และ connectionless (เปรียบเสมือน เป็นระบบขนส่งที่ชำนาญรวดเร็วแต่ไม่รบ ั ประกันว่าข้อมูล จะถึงปลายทางหรือไม่) การที่ IP มีขอ ้ ด้อย 2 ประการนี้ ดังนัน ้ โปรโตคอลเลเยอร์อ่ ืนที่ใช้ IP เป็นตัวส่งข้อมูลที่ จำเป็นต้องหาหนทางในการลดข้อด้อยเหล่านี้ลงไป เพื่อ ให้การรับส่งข้อมูลมีเสถียรภาพและเชื่อถือได้ ซึง ่ ก็คือจะ ต้องมีกลไกในการรับประกันการรับส่งข้อมูลอีกชัน ้ นัน ่ เอง การส่งข้อมูลด้วย IP เปรียบเสมือนการส่งจดหมาย ทั่วไป ที่เราจ่าหน้าซองเรียบร้อย ติดแสตมป์แล้วนำไปหย่อนลงตู้ ไปรษณีย์ โดยส่วนใหญ่แล้วบุรุษไปรษณียน ์ ี้ก็จะทำหน้าที่ อย่างสม่ำเสมอคือ นำจดหมายไปที่บา้ นเลขที่ตามจ่าหน้า ซอง แล้วก็หย่อนลงไปในตู้รบ ั จดหมายของผู้รบ ั ซึง ่ จะเห็น ว่า ด้วยการทำงานปกติจดหมายน่าจะถึงปลายทางเสมอ

ตัวเลขถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วน ส่วนละ 8 บิตเท่าๆกัน เวลาเขียนก็แปลงให้เป็นเลขฐานสิบก่อนเพื่อความง่าย แล้วเขียนโดยคัน ่ แต่ละชุดด้วยจุ ดดังนัน ้ ในตัวเลขแต่ละ ส่วนนี้จง ึ มีค่าได้ตั้งแต่ 0 จนถึง 28-1 255 เท่านัน ้ เช่น192.10.1.101 เป็นต้น ตัวเลข IP Address ชุดนี้จะเป็นสิง ่ ที่สำคัญคล้ายเบอร์โทรศัพท์ที่เรามีใช้อยู่ และไม่ซ้ำกัน เพราะสามารถกำหนดให้เป็นตัวเลขรวมได้ ทั้งสิน ้ กว่า 4 พันล้านเลขหมาย แต่การกำหนดให้ คอมพิวเตอร์มเี ลขหมาย IP Address นี้ไม่ได้เริม ่ ต้น จาก 1 และนับขึน ้ ไปเรื่อยๆหากแต่จะมีการแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรกเป็นหมายเลขของเครือข่าย (Network Number) ส่วนที่สองเรียกว่า หมายเลข ของคอมพิวเตอร์ที่อยูใ่ นเครือข่ายนัน ้ (Host Number) เพราะเครือข่ายใดๆอาจจะมีเครื่อง คอมพิวเตอร์เชื่อมต่ออยูไ่ ด้มากมาย ในเครือข่ายที่อยู่ คนละระบบอาจมีหมายเลขโฮสต์ซ้ำกันก็ได้แต่เมื่อรวมกับ

การแบ่งคลาส (Class) ของ IP Address มีการแบ่งจากคลาส A ถึงคลาส E เพื่อจะได้ทำการ จัดสรร IP Addres ได้อย่างเหมาะสมกับขนาด bits 24bits ของเน็ต0เวิรn7eก ์tid hostid ClassA ClassB 10 ClassC 110 ClassD 1110 16bits 14bits netid hostid 21bits 8bits netid hostid 28bits Multicastgroupid 28bits ClassE 1111 Reservedforfutureuse

โครงสร้างของแอดเดรสที่ใช้ใน CLASS ต่างๆ ของเครือข่ายซึ่ง ทัง ้ หมดยาว 32 บิต มีการจัดคลาสแบ่งออกเป็น 5 ระดับ แต่ที่ใช้งานทั่วไปจะ มีเพียง 3 ระดับ คือ Class A Class B ,Class C ซึง ่ ก็ แบ่งตามขนาดความใหญ่ของเครือข่ายนัน ่ เอง ถ้าเครือข่ายใดมี จำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์เชื่อมต่ออยูม ่ าก ก็จะมีหมายเลขอยูใ่ น Class A ถ้ามีจำนวนเครื่องต่อลดหลัน ่ กันลงมาก็จะอยูใ่ น Class b และ Class C ตามลำดับ หมายเลข IP ของ Class A มีตัวเลขเป็น 0 และหมายเลขของเครือข่าย (Network Number) ขนาด 7บิต และ มีหมายเลขของ เครื่องคอมพิวเตอร์(Host Number) ขนาด 24 บิต ทำให้ใน หนึ่งเครือข่ายของ Class A สามารถเชื่อมต่ออยูใ่ นเครือข่ายได้ ถึง 224 16 ล้านเครื่อง เหมาะสำหรับองค์กร หรือบริษัทยักษ์ ใหญ่ แต่ใน Class A นี้จะมีหมายเลข เครือข่ายได้ 128 ตัว เท่านัน ่ หมายความว่าจะมีเครือข่ายยักษ์ใหญ่แบบนี้ได้ ้ ทั่วโลก ซึง

Class B แต่ละเครือข่ายได้ถึง 216 หรือ มากกว่า 65000 เครื่อง สุดท้าย คือ Class C ซึ่งมีหมายเลข เครื่องคอมพิวเตอร์แบบ 8 บิต และมีหมายเลขเครือข่าย แบบ 21 บิต ส่วนสามบิตแรกบังคับว่าต้องเป็น 1102 ดัง นัน ้ ใน แต่ละเครือข่าย Class C จะมีจำนวนเครื่องต่อเชื่อม ได้เพียงไม่เกิน 254 เครื่องในแต่ละเครือข่าย(28 256 เครือข่าย แต่หมายเลข 0 และ 255 จะไม่ถก ู ใช้งาน จึง เหลือเพียง 254) ดังนัน ี ารสังเกตได้ง่ายๆ ว่าเราเชื่อม ้ วิธก ต่ออยูท ่ ี่เครือข่าย Class ใดก็สามารถดูได้จาก IP Address ในส่วนหน้า( ส่วน Network)โดย Class A จะมี Network address 127 (บิตแรกเป็น 0 เสมอ) Class B จะมี Network address ถึง 191 (เพราะขึ้นต้นด้วย102เท่านัน ้ ) Class C จะมี Network address ตัง ้ แต่ 0 ถึง ตัง ้ แต่ 128 ตัง ้ แต่ 192

ช่วงของ IP Address แต่ละ คลาส Class A B C D E Range 0.0.0.0 – 127.255.255.255 128.0.0.0 – 191.255.255.255 192.0.0.0 – 223.255.255.255 224.0.0.0 – 239.255.255.255

เช่น ถ้าเครื่องคอมพิวเตอร์ในอินเตอร์เน็ตมี หมายเลข IP ดังนี้ 181.11.82.22 ตัวเลข 181.11 แสดงว่าเป็นเครือข่ายใน Class B ซึ่ง หมายเลขเครือข่ายเต็มๆ จะใช้ 2 ส่วนแรกคือ 181.11 และมีหมายเลขคอมพิวเตอร์คือ 82.22 หรือถ้ามี IP Address เป็น 192.131.10.101 ทำให้ทราบว่าเครื่องคอมพิวเตอร์นัน ้ เชื่อมต่ออยูใ่ น Class C มีหมายเลขเครือข่าย 3 ส่วนแรก คือ 192.131.10 และหมายเลขประจำเครื่องคือ 101เป็นต้น

โครงสร้างของโปรโตคอล TCP/IP TCP : (Tranmission Control Protocol) อยูใ่ น Transport Layer ทำหน้าที่จด ั การและควบคุม การรับส่งข้อมูล และมีกลไกความคุมการ รับส่งข้อมูลให้ มีความถูกต้อง และมีการสื่อสารอย่างเป็นกระบวนการ UDP : (User Datagram Protocol) - อยูใ่ น Transport Layer ทำหน้าที่จด ั การและควบคุมการรับ ส่งข้อมูล แต่ไม่มก ี ลไกควบคุมการรับ ส่งข้อมูลให้มี เสถียรภาพและเชื่อถือได้

โครงสร้างของโปรโตคอล TCP/IP (ต่อ) IP : (Internet Protocol) - อยูใ่ น Internetwork Layer เป็นโปรโตคอล หลักในการสื่อสารข้อมูล มีหน้าที่ค้นหาเส้นทางระว่างผู้รบ ั และผู้ ส่ง ใช้ IP Address ซึ่งมีลักษณะเป็นเลขสีช ่ ุด แต่ละชุดมีค่าตั ง ้ แต่ 0-255 เช่น 172.17.3.12 ในการอ้างอิงโฮสต์ต่างๆ และกลไก การ Route เพื่อส่งต่อข้อมูลไปจนถึงจุดหมายปลายทาง ICMP : (Internet Control Message Protocol) - อยูใ่ น Internetwork Layer มีหน้าที่สง ่ ข่าวสารและแจ้งข้อ ผิดพลาดให้แก่ IP

โครงสร้างของโปรโตคอล TCP/IP(ต่อ) IGMP : (Internet Group Management Protocol) อยูใ่ นเน็ตเวิรก ์ เลเยอร์ ทำหน้าที่ในการส่ง UDP ดาต้าแกรมไปยัง กลุ่มของโฮสต์ หรือ โฮสต์หลายๆ ตัวพร้อมกัน ARP : (Address Resolution Protocol) อยูใ่ น Link Layer ทำหน้าที่เปลี่ยนระหว่าง IP แอดเดรส ให้เป็นแอดเดรสของ Network Interface เรียกว่า MAC Address ในการติดต่อระหว่างกัน MAC Address คือหมายเลขประจำของ Hardware Interface ซึ่งในโลกนี้จะไม่มี MAC Address ที่ซ้ำกัน มี ลักษณะเป็นเลขฐาน 16 ยาว 6 ไบต์ เช่น 23:43:45:AF:3D:78 โดย 3 ไบต์แรกจะเป็นรหัสของผู้ ผลิต และ 3 ไบต์หลังจะเป็นรหัสของผลิตภัณฑ์

โครงสร้างของโปรโตคอล TCP/IP(ต่อ) RARP : (Reverse ARP) - อยูใ่ นลิงค์เลเยอร์ เช่นกัน แต่ทำหน้าที่กลับกันกับ ARP คือเปลี่ยน ระหว่างแอดเดรสของ Network Interface ให้ เป็นแอดเดรสที่ใช้โดย IP Address

เลเยอร์ของโปรโตคอลต่างๆใน ชุด TCP/IP User Process User Process User Process TCP User Process UDP Application Transport ICMP IP IGMP Network ARP Hardware Interface RARP Link

IP Header IP Header เมื่อข้อมูลถูกส่งลงมาจากชัน ้ Transport Layer สูช ่ น ั ้ Network Layer กระบวนการ Encapsulate ของ IP Protocol จะทำหาร เพิม ่ ส่วน Header ลงไป Header ของ IP datagram มีขนาด 20-32 ไบต์ มีสว่ นประกอบ ต่างๆ ดังแสดงในรูป

ตาราง IP Header

IP Routing IP Routing เป็นกระบวนการค้นหาเส้นทางในการ ส่งผ่านข้อมูลจากต้นทางไปยังปลายทางโดยผ่าน การส่งต่อข้อมูลไปจนกว่าจะถึงปลายทาง นับเป็น กลไกสำคัญที่ทำให้ IP เป็นโปรโตคอลที่สามารถ ส่งข้อมูลจากโฮสต์หนึ่งไปอีกโฮสต์หนึ่งได้แม้วา่ จะ อยูไ่ กลแสนไกล

กระบวนการ Routing

กลไกการทำงานของ ARP การทำงานของ ARP เป็นเรื่องไม่ซบ ั ซ้อน มีเพียง 2 ขัน ้ ตอนเท่านัน ้ คือ 1. เครื่องที่ต้องการสอบถาม MAC Address ส่ง ARP packet เรียกว่า ARP Request ซึ่งบรรจุ IP , MAC Address ของตนเอง และ IP Address ของ เครื่องที่ต้องการทราบ MAC Address ส่วน MAC Address ปลายทางนัน ้ จะถูกกำหนดเป็น FF:FF:FF:FF:FF:FF ซึ่งเป็น Broardcast Address เพื่อให้ ARP packet ถูกส่งไปยังเครื่องทุก เครื่องที่อยูใ่ นเน็ตเวิรค ์ เดียวกัน

กลไกการทำงานของ ARP

การตอบกลับ

การใช้งาน ICMP 1. Query ใช้สอบถาม สถานะระหว่างกัน ในรูป ที่ 4.1 เป็นการส่ง Echo request เพื่อ ถามสถานะของปลาย ทาง ซึ่งโฮสปลายทางอยู่ ในสถานะปกติ สามารถ ทำการสื่อสารได้จะส่ง Echo Reply กลับมา

Error Report Error Report ใช้ รายงานข้อผิดพลาดที่ เกิดขึ้น เช่น หากไม่ สามารถส่งดาต้าแกรมไป ถึงปลายทางได้ เราเตอร์ จะส่ง ICMP Message Host Unreachable กลับมารายงานโฮส ต้นทาง (รูปที่ 4.2)

TCP/IP NETWORK ปกติอินเตอร์เน็ตจะมีหมายเลขเครื่องทุกเครื่อง เรียกว่า IP Address ในระบบเครือข่ายเดียวกัน หมายเลขนี้จะไม่ซ้ำกันโดยศูนย์บริการอินเตอร์เน็ต จะทำหน้าที่แจก IP Address มาให้ การแจก IP Address ขององค์การใหญ่จะมี 3 คลาส คือ Class A , Class B, Class C

การแจก IP ADRESS เป็น CLASS รูปที่ 1 แสดงการแจกไอ พีแอดเดรสเป็นคลาส

การแจกไอพีแอดเดรสแบบเดี่ยว รูปที่ 2 การแจกไอพี แอดเดรสแบบเดี่ยว

รูปที่ 3 แสดงไอพีแอดเดรสใน การเชื่อมต่อแบบลีสไลน์ การกำหนดไอพีแอดเดรส ของเราเตอร์ในการเชื่อมต่อ แบบลีสไลน์ ในการเชื่อมต่อแบบลีสไลน์นัน ้ ศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตจะให้ หมายเลขไอพีแอดเดรสมาส องชุดนะครับไม่ใช่ชุดเดียวคือ ไอพีแอดเดรสของแลน (เป็น คลาส กำหนดที่เครื่องลูก ข่าย) ไอพีแอดเดรสของแวน (เป็น ไอพีเดี่ยว กำหนดที่เราท์ เตอร์)

การกำหนดไอพีแอดเดรส ของเครื่อง คอมพิวเตอร์ ในระบบเครือข่าย ไอพีแอดเดรสของเราท์เตอร์นัน ้ ศูนย์บริการจะต้องเป็นผู้กำหนดมาให้ เราไม่สามารถกำหนดเองได้ แต่ สำหรับไอพีแอดเดรสของเครื่องลูก ข่ายนัน ้ เราสามารถกำหนดเองได้ ซึ่งมี การกำหนดอยูส ่ องวิธี

ไอพีแอดเดรสจริง ไอพีแอดเดรสจริงคือไอพีแอดเดรสที่มอ ี ยูใ่ น ตารางเราติ้งเทเบิลของระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะถูก กำหนดให้เฉพาะแต่ละระบบเครือข่ายโดยที่ไม่ซ ้ำเพื่อ ให้เครื่องคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ สามารถติดต่อถึงกันได้ การกำหนดให้เป็นไอพีแอดเดรสจริงนัน ้ มีขอสังเกตุที่ ควรพิจารณาการใช้งานดังนี้ สะดวกในการใช้งานเนื่องจากไอพีแอดเดรสจริง สามารถติดต่อระบบอินเทอร์เน็ตได้โดยตรง เป็นอันตรายต่อการบุกรุกเนื่องจากเชื่อมต่ออิน เทอร์เนตโดยตรง ไอพีแอดเดรสจริงในปัจจุบน ั ไม่เพียงพอต่อการแจก

ไอพีแอดเดรสสำรอง "ไอพีแอดเดรสสำรอง" บางคนจะเรียกว่า "ไอพีปลอม" ไอพีนี้ไม่ใช่ของปลอมสามารถใช้ งานได้จริง โดยมาจากคำว่า "Private IP Address" บางท่านก็เรียกว่า ไอพีสว่ น ตัว .เนื่องจากไอพีแอดเดรสจริงไม่พอแจกจ่าย ศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตจึงมีวธ ิ ห ี ลีกเลี่ยงโดย การให้ผู้ที่เชื่อมต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตใช้ หมายเลขไอพีสำรองแทนหมายเลขจริง

รูปที่ 4 การใช้ไอพีแอดเดรส สำรอง หมายเลขไอพีแอดเดรสสำรอง จะมีทัง ้ หมด 273 ชุดประกอบ ไปด้วย คลาส A 10.0.0.0 10.255.255.255 (1 ชุด) คลาส B 172.168.0.0 172.31.255.255 (16 ชุด) คลาส C 192.168.0.0 192.168.255.255 (256 ชุด) ไอพีแอดเดรสสำรองก็คือไอพี แอดเดรสที่ไม่มเี ราติ้งเทเบิลอยู่ ในระบบอินเทอร์เน็ต

ขัน ้ ตอนที่ 1 สำรวจดูวา่ เครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณได้ ทำการติดตัง ั โดย เข้าไปที่ ้ protocal TCP/IP ไว้แล้วรึยง Start - Settings - Control Panal - Network ถ้ายัง ไม่มี TCP/IP ก็ให้ click ที่ปุ่ม Add

เลือก Protocal

ก microsoft ทางด้านซ้าย แล้วเลือก TCP/IP ทางด้านขวา Click ปุ่ม OK

กแถบไปที่ TCP/IP แล้วกดปุ่ม Properties เพื่อตามค่าต่างๆ ข้างในตามนี้ eway : 203.148.248.1

ใส่ ค่าตามที่เห็นในรูปนี้ Host : rangsit Domain : rsu.ac.th DNS Server Search : 203.148.248.2 Add เพิม ่ ไปอีกตัวก็ได้นะ 203.148.248.3 Domain Suffix Search : rsu.ac.th เมื่อตัง ้ ค่าได้ตามนี้แล้วก็ กดปุ่ม OK แล้วเครื่องของคุณจะทำการ Restart windows อีกครัง้

ขัน ้ ตอนที่ 2ติดตัง ้ Dial-up Networking Start - Program - Accessories - Dial-up Networking ถ้าไม่มแ ี สดงว่าคุณไม่ได้ทำการติดตัง ้ ลงโปรแกรมนี้จาก windows95 ให้นำแผ่น windows 95 ใส่ไว้ที่เครื่อง แล้วไปทำการติดตัง ้ โปรแกรมตาม นี้ Start - Control Panel - Add/Remove Programs - Windows Setup - Communications - Details - Click Checkbok Dial-up Networking แล้วเลือก OK แล้วก็ Ok เมื่อทำการติดตัง ้ โปรแกรม Dial-up Networking พร้อมแล้ว ก็ไปเปิดไปที่โปรแกรม Dial-up Networking เลือก make new connection

เลือก configure.

แล้วเลือก Option ทำเครื่องหมายถูกที่ Bring up terminal window after dialing แล้วกด OK แล้ว Next ไปในขัน ้ ตอนต่อไป

กดปุ่มขวาของmouseบน icon เพื่อไปเลือก properties

หลังจากเลือกที่ properties จะได้ตามรูปนี้ ให้กดไปที่ปุ่ม server type

ในนี้จะใส่หรือว่าไม่ใส่โดยใช้ Server Assigned ก็ได้ แต่วา่ ใช้ Server assign IP Address จะดีกว่า

double click ที่ icon ที่เราสร้างขึ้นแล้วกด connect เพื่อ connect ไปที่ server เมื่อ Connect ได้แล้วจะเห็นกรอบสีเ่ หลี่ยมเล็กๆขึ้นมา ให้ เคาะปุ่ม Enter ไป ประมาณ 3 - 4 ที เมื่อเห็น login: ก็ใส่ ใส่ login ของคุณเข้าไปกด enter Password : ก็ใส่ password ของคุณ กด enter จากนัน ้ ใช้mouse กดไปที่ ปุ่ม Continue หรือกด F7 เมื่อการ connect สมบูรณ์แล้วก็สามารถไปเปิด โปรแกรมต่างๆมาใช้ได้เลย เช่น netscape , mirc , ws ftp , Telnet

คณะผู้จด ั ทำ 1. นางสาวรังสินาฎ สุขสว่าง รหัสประจำตัว 46-3506-008-2 2. นางสาวสมหญิง บุตรพันธ์ รหัสประจำตัว 46-3506-013-2 3. นายประดิษฐ์ สุภัคตระกูล รหัสประจำตัว 46-3506-035-5

Back to top button